YKS HOME

เฟอร์นิเจอร์ไม้ Top โต๊ะอาหารของ YKS Home การเลือกวัสดุรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ : ไม้ยางพารา ไม้โอ๊ค และหินเคราะห์

เฟอร์นิเจอร์ไม้ Top โต๊ะอาหารของ YKS Home การเลือกวัสดุรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ : ไม้ยางพารา ไม้โอ๊ค และหินเคราะห์

เฟอร์นิเจอร์ไม้ ไม่ว่าจะเป็น ไม้ยางพารา ไม้โอ๊ค หรือ ไม้เทียมทุกชนิด การเลือกวัสดุสำหรับท็อปโต๊ะนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากวัสดุที่ใช้จะสัมพันธ์กับการใช้งานและการดูแลรักษา ทางแบรนด์จึงเห็นถึงความสำคัญในการให้ความรู้ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า โดยการมาทำความรู้จักกับวัสดุที่ได้รับความนิยมในการทำโต๊ะท็อป 3 ชนิด ได้แก่ ไม้ยางพารา ไม้โอ๊ค และหิน เพื่อช่วยให้คุณลูกค้าสามารถตัดสินใจเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งานได้ง่ายขึ้น

Post image
Post image
Post image

1. ไม้ยางพารา (Rubberwood)

ไม้ยางพาราเป็นไม้ที่มีความแข็งแรง เหมาะสำหรับการทำเฟอร์นิเจอร์ อาจเห็นรอยประสานจากเนื้อไม้ที่เล็กกว่าโดยธรรมชาติของไม้ยางพารา และเป็นไม้ที่ผลิตในประเทศไทย ทำให้มีราคาที่จับต้องได้

Post image

2. ไม้โอ๊ค (Oak)

ไม้โอ๊คเป็นไม้เนื้อแข็งที่ได้รับความนิยมในงานเฟอร์นิเจอร์ โดยเฉพาะหน้าท็อป เนื่องจากมีความแข็งแรง ทนทาน และมีลวดลายที่สวยงาม เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการลวดลายที่สวยงามและมีความทนทาน ทนรอยขีดข่วน แรงกระแทกได้ดี และเป็นไม้ที่นำเข้าจากต่างประเทศทำให้มีราคาสูงกว่า

Post image

3. หิน (Stone)

หินเป็นวัสดุที่แข็งแรง ทนรอยขีดข่วน ทนความร้อนได้ดี ทำความสะอาดง่าย ไม่ดูดสีหรือกลิ่น และไม่เกิดคราบได้ง่าย ซึ่งมักใช้ในการทำโต๊ะท็อปที่ต้องการความหรูหราและดูแลง่าย ในราคาที่จับต้องได้เมื่อเทียบกับหินแท้ ซึ่งการเลือกวัสดุสำหรับท็อปโต๊ะขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานและงบประมาณของผู้ใช้ YKS Home จึงเห็นถึงความสำคัญในการเลือกวัสดุที่เหมาะสม เพื่อเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดให้แก่ลูกค้าและใช้งานได้อย่างยาวนาน

Post image

ไม้ที่ใช้ในการทำเฟอร์นิเจอร์มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและความเหมาะสมในการใช้งาน แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียต่างกัน ดังนี้

ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สัก, ไม้แดง, ไม้มะค่า ข้อดี: ทนทาน, มีความแข็งแรง, สีสวยงาม, ความคงทนต่อการใช้งานและการเสื่อมสภาพ ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง, บางชนิดอาจหายาก

ไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้สน, ไม้พาร์ติเคิล ข้อดี: ราคาไม่แพง, เบา, ง่ายต่อการทำรูปทรง ข้อเสีย: ค่อนข้างเปราะบาง, ทนทานน้อยกว่าไม้เนื้อแข็ง

ไม้สังเคราะห์ เช่น ไม้อัด, MDF (Medium Density Fiberboard), HDF (High Density Fiberboard) ข้อดี: ราคาถูก, น้ำหนักเบา, ง่ายต่อการประดิษฐ์และตัด ข้อเสีย: ความทนทานต่ำกว่าไม้ธรรมชาติ, อาจไม่เหมาะกับการใช้งานภายนอก

ไม้ไผ่: ข้อดี: ยืดหยุ่น, แข็งแรง, เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ข้อเสีย: ต้องการการดูแลรักษามากกว่าบางประเภท การเลือกไม้สำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ควรพิจารณาจากงบประมาณ, ความทนทาน, รูปแบบการใช้งาน และสภาพแวดล้อมที่เฟอร์นิเจอร์นั้นจะถูกใช้ เช่น ไม้เนื้อแข็งจะเหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการความทนทานสูง เช่น โต๊ะหรือเก้าอี้, ส่วนไม้สังเคราะห์อาจเหมาะกับการใช้งานภายในที่ไม่ต้องการการเสียดสีมาก